อ่างล้างตาในห้องปฏิบัติการ มีกี่ประเภท | SCHAKE

1.อ่างล้างตาติดตั้งถาวร (Plumbed Eyewash Station)
-ต่อเข้ากับระบบน้ำโดยตรง
-ให้น้ำได้ต่อเนื่องและเพียงพอตามมาตรฐาน (ANSI/EN)
-มักติดตั้งบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ห้องแลปสารเคมี โรงงาน

2.อ่างล้างตาเคลื่อนที่ (Portable Eyewash Station)
-มีถังบรรจุน้ำขนาด 15–70 ลิตร
-เคลื่อนย้ายได้สะดวก เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไม่มีระบบน้ำถาวร
-ต้องเติมน้ำและทำความสะอาดตามรอบเวลา

3.อ่างล้างตาแบบขวด (Eyewash Bottle / Personal Eyewash)
-เป็นขวดบีบหรือ squeeze bottle
-ใช้สำหรับล้างตาเบื้องต้นทันทีเมื่อเกิดเหตุ
-เหมาะสำหรับพื้นที่เสริม ไม่ใช่ทางเลือกหลักเพราะปริมาณน้ำจำกัด

4.อ่างล้างตาแบบผสม (Combination Unit: Shower + Eyewash)
-รวมทั้ง ฝักบัวนิรภัย (Safety Shower) และ อ่างล้างตา
-ใช้ในพื้นที่เสี่ยงที่อาจเกิดการกระเด็นของสารเคมีทั้งตาและร่างกาย

ตารางเปรียบเทียบอ่างล้างตาในห้องปฏิบัติการ
1. อ่างล้างตาแบบติดตั้งกับที่ (Plumbed Eyewash Station)

ข้อดี
-จ่ายน้ำต่อเนื่องได้ยาวนาน
-แรงดันและปริมาณน้ำคงที่
-ใช้งานสะดวก ไม่ต้องเติมน้ำ
-เหมาะสำหรับห้องแลปที่มีการใช้งานบ่อย

ข้อจำกัด
-ต้องติดตั้งถาวร ใช้พื้นที่
-ค่าใช้จ่ายสูงกว่าประเภทอื่น
-ต้องดูแลระบบท่อน้ำและการบำรุงรักษา

2. อ่างล้างตาแบบเคลื่อนที่ (Portable Eyewash Station)

ข้อดี
-เคลื่อนย้ายสะดวก ติดตั้งง่าย
-ใช้ได้ในพื้นที่ที่ไม่มีท่อน้ำ
-เหมาะสำหรับงานชั่วคราวหรือภาคสนาม

ข้อจำกัด
-ระยะเวลาการใช้งานจำกัด (ตามปริมาณน้ำในถัง)
-ต้องหมั่นตรวจสอบและเติมน้ำ/สารกันบูด
-เสี่ยงต่อการปนเปื้อนหากไม่ดูแลรักษา

3. ขวดล้างตาฉุกเฉิน (Emergency Eyewash Bottle)

ข้อดี
-ขนาดเล็ก พกพาสะดวก
-ใช้งานได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ
-ราคาถูกกว่าประเภทอื่น

ข้อจำกัด
-ใช้ล้างได้เพียงระยะสั้น
-ปริมาณน้ำไม่พอสำหรับการล้างยาวนาน
-ไม่สามารถทดแทนอ่างล้างตาหลักได้

4. ฝักบัวนิรภัย (Safety Shower with Eyewash)

ข้อดี
-ใช้ล้างสารเคมีออกจากร่างกายทั้งตัวได้
-มักติดตั้งรวมกับอ่างล้างตา
-เหมาะสำหรับห้องแลปอุตสาหกรรมหรือโรงงานที่เสี่ยงสูง

ข้อจำกัด
-ใช้พื้นที่มาก
-ราคาสูงและต้องติดตั้งถาวร
-ใช้น้ำปริมาณมาก ต้องมีระบบระบายน้ำที่ดี